วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

[Animation] Kubo and The Two Strings : คูโบ้และพิณมหัศจรรย์




- ครอบครัวไม่อาจอยู่กับเราได้ตลอดไป แต่สายสัมพันธ์ของครอบครัวจะอยู่กับเราต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น -



Trailer: Kubo and the Two String


ณ ดินแดนญี่ปุ่นโบราณในจินตนาการ มีเด็กชายคนหนึ่ง นามว่า “คูโบ้” ผู้เติบโตมากับแม่บนเทือกเขาสูงชัน ทุกๆ วันคูโบ้จะหาเลี้ยงชีพด้วยการเล่านิทาน โดยมีพิณซามิเซ็ง และโอริงามิ มาสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ฟัง แต่ไม่ว่าจะเล่าจบหรือไม่จบคูโบ้จะจากไปเมื่อได้ยินเสียงระฆังบอกตะวันตกดิน เพื่อกลับไปดูแลแม่



แม่ของคูโบ้ร่างกายอ่อนแอ บางครั้งก็เลอะเลือน หลงลืม เธอไม่สามารถจำหรือเล่าเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับพ่อได้ทั้งหมด แต่ก็คอยย้ำกับคูโบ้อยู่เสมอว่าให้พกเครื่องรางไม้รูปลิง และกลับบ้านก่อนตะวันตกดิน เพื่อป้องกันตนเองจากราชาแห่งจันทรา หรือตาของเขา ผู้เป็นคนช่วงชิงดวงตาข้างหนึ่งของคูโบ้ไป แต่แล้ววันหนึ่งในวันงานเทศกาลคูโบ้เกิดเรียกวิญญาณจากอดีตโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ ทั้งยังถูกน้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ราชาแห่งจันทราหรือตาของเขาตามล่า ทำให้คูโบ้รู้ว่าเรื่องที่แม่เขาเล่าเป็นความจริง อีกทั้งตัวเขาต้องออกผจญภัยเพื่อตามหาของวิเศษ 3 อย่างในดินแดนฟาร์แลนด์ อันได้แก่ ดาบแกร่งไร้หัก เกราะวิเศษที่ไม่อาจฟันเข้า และสุดท้ายคือหมวกนักรบ พร้อมเพื่อนใหม่เป็นลิงจ๋อ และพี่ด้วงความจำเสื่อมที่จะมาช่วยคูโบ้ในการหาของวิเศษและความทรงจำที่หายไปเกี่ยวกับพ่อของเขา



Kubo and the Two String อนิเมชั่นภาพสวย เรื่องยี่ยมแห่งปี เทคนิค Stop Motion ถ่ายกันเป็นช็อตๆ ที่ว่ากันว่าใช้เวลากัน 3 วินาที ต่อสัปดาห์ เป็นอะไรที่ประณีต และงดงามที่แฝงไปด้วยความละเอียดลออ ทั้งงานศิลปะ วัฒนธรรม และปรัชญาแบบตะวันออก ผ่านการเล่าเรื่องราวที่เปี่ยมไปด้วยเวทมนตร์ และความเป็นแฟนตาซี



วิดีโอตัวอย่าง และเบื้องหลัง


ฉากที่เราชอบเป็นพิเศษน่าจะเป็นการใช้พลังพิเศษของคูโบ้กับกระดาษโอริงามิ ที่ดูแล้วเพลินตาดีแท้ กับฉากต่อสู้กับโครงกระดูกยักษ์ที่ดูเบื้องหลังแล้วก็ต้องร้อง โอ้โห! นอกจากนี้เพลงประกอบก็เข้ากั๊น เข้ากัน แต่บางฉากบางตอนก็เหมือนถูกตัดฉึบๆ จนคล้ายว่าจะอารมณ์ค้าง การดำเนินเรื่องบางช่วงก็แลดูเนือยๆ ซึ่งก็คิดเหมือนกันว่าหากจะมีบางคนบอกว่าเบื่อก็ไม่แปลกใจ เพราะเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แฝงเนื้อหาปรัชญาแบบผู้ใหญ่ว่าด้วยเรื่องของครอบครัว สัจธรรม และการดำเนินชีวิตภายใต้การนำเสนอผ่านเรื่องเล่าการผจญภัยของเด็ก หรือการเดินทางของฮีโร่ แต่เหมือนว่าตัวการ์ตูนยังไม่ชุบน้ำตาลหรือสีลูกกวาดที่จะทำให้รู้สึกหวือหวา แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือภาพยนตร์คุณภาพเรื่องหนึ่ง...และเป็นไปได้เราก็อยากจะดูเพื่อทำความเข้าใจกับมันอีกครั้ง

If you must Blink, Do it now!



คะแนน 9/10
เพราะความสวยงามบางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากความสมบูรณ์แบบ :D


วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Manga & Live Action] Good Morning Call ... อรุณสวัสดิ์ส่งรักมาทักทาย

บอกตามตรงเลยว่า ตอนเห็นข่าวว่า Good Morning Call หรือ “อรุณสวัสดิ์ส่งรักมาทักทาย” กำลังจะกลายเป็น Live Action จาก Facebook Bongkoch แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยทีเดียว เพราะเรื่องนี้มันช่างเก่าจนไม่คิดจะมีผู้จัดที่ไหนจับมาปัดฝุ่นจับมาทำ Live Action อีก ... ตอนนั้นถึงกับกด Like ให้คอมเมนท์หนึ่งรัวๆ ว่า “อ่านตอน 14 ไม่คิดว่าจะมาเป็นละครเอาตอนใกล้ 30” (บอกอายุกันเลยทีเดียว)



Good Morning Call เป็นผลงานของ Yue Takasuka ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Ribon สำนักพิมพ์ Shueisha ปี 1997 (พ.ศ. 2540) และออกเป็นรวมเล่มมาทั้งหมด 11 เล่มจบ ฉบับภาษาไทยจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บงกช วางจำหน่ายช่วงประมาณปี พ.ศ. 2543 ถือว่าเป็นการ์ตูนผู้หญิงเรื่องหนึ่งที่เติบโตมากับคอการ์ตูนวัยรุ่นยุค 90 อย่างเรา และอาจเป็นการ์ตูนผู้หญิงเรื่องแรกๆ ที่เริ่มอ่านก็เป็นได้ สำหรับเราเรื่องนี้กระแสอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าจังหวะร็อคฯ การ์ตูนผู้หญิงอีกหนึ่งเรื่องในยุคนั้น แต่ถ้าใครได้อ่านแล้วก็ชอบ และก็ยกให้เป็นหนึ่งในการ์ตูนในดวงใจไม่น้อยเช่นกัน


เรื่องย่อ
“โยชิคาว่า นาโอะ” สาวน้อยวัย 15 ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในเมืองตามลำพัง เพราะไม่อยากตามไปอยู่กับพ่อแม่ที่ต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัด แต่ดันโชคร้าย เมื่อเธอโดนบริษัทจัดหาที่อยู่โกงจนทำให้ต้องมาอยู่อาศัยกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก นั่นคือ เทพบุตรสุดหล่อของโรงเรียน “อุเอฮาระ ฮิซาชิ”เพื่อนร่วมชั้นของเธอ

เริ่มต้นทั้งสองคน ก็ไม่ได้อยากจะอยู่ร่วมบ้านกันสักเท่าไร แต่ทั้งนาโอะ และฮิซาชิ ต่างก็ต้องการที่จะใช้ชีวิตแยกออกมาจากครอบครัว บวกกับสภาพห้อง ทำเล และสถานะทางการเงิน ทำให้ทั้งคู่ตกลงที่จะหารค่าเช่าและอยู่ร่วมกันไปจนกว่าจะเรียนจบ โดยสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้

จากที่คิดว่าจะต่างคนต่างอยู่ อยู่กันไปกันมาทั้งคู่ก็เริ่มเปิดใจให้แก่กัน แถมนาโอะยังต้องจับพลัดจับผลูมาเป็นแฟนปลอมๆ ของฮิซาชิ งานนี้แฟนปลอมๆ จะกลายแฟนตัวจริงได้ยังไง ต้องไปติดตามอ่านกันค่ะ



ความผูกพันที่อาจนำมาซึ่งความรัก...

Good Morning Call ยังคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้พล็อตแบบพื้นฐานของการ์ตูนผู้หญิง คือ การพบพานของหนุ่มฮอตกับสาวธรรมดา และเหตุที่ชาย – หญิงต้องมาร่วมบ้านเดียวกัน แต่จุดเริ่มต้นและความสัมพันธ์ของตัวละครที่แสนเรียบง่ายนั้นเกิดมาเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ


พระเอกเป็นถึงหนุ่มสุดป๊อปของโรงเรียนที่สาวๆ หลายคนหลงใหล แต่ไม่ใช่คนสุงสิงกับใคร จึงดูลึกลับเข้าถึงได้ยาก อีกด้านหนึ่งนางเอกก็เป็นสาวใสๆ ที่ใช้ชีวิตแสนเรียบง่าย ไม่ได้ประสีประสาเรื่องความรัก ทั้งสองคนจึงไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เมื่อมาเจอกันก็ต้องเริ่มมาทำความรู้จักกันใหม่โดยที่ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ต่อกัน จึงดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับเราที่ไม่ได้เห็นฉากนางเอกวี้ด ว้าย  วีน โวยวาย ทำซึนใส่พระเอก แต่กลับเป็นคนให้ข้อเสนอการอยู่ร่วมกันกับพระเอกอย่างง่ายๆ จนพระเอกอึ้ง แม้ว่าอยู่กันมาไม่กี่วันทั้งคู่จะเริ่มมีปัญหากัน แต่มันก็เป็นเหมือนปัญหาเล็กๆ ของคนในครอบครัว เช่น เรื่องไม่แบ่งของกิน หรือการรู้สึกว่าเพื่อนร่วมบ้านตัวเองช่างงี่เง่าเหลือเกิน แต่เมื่อทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ทั้งนาโอะและอุเอฮาระต่างพยายามทำความเข้าใจ และดูแลกันและกัน จนในที่สุดความรู้สึกของทั้งคู่ก็ต่างเปลี่ยนไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ตัว

สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ คือ การให้อารมณ์ชวนฝันแต่มีความเรียลลิสติกที่รู้สึกว่าสัมผัสได้อยู่ เรารู้สึกได้ว่า คนแบนนี้มีนะ เหตุการณ์แบบนี้ก็อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้นะ ความสัมพันธ์ของชายที่มีรักแรกที่เจ็บปวดแต่ต้องซ่อนไว้ กับสาวน้อยผู้แสนซื่อ ที่แม้จะรู้ตัวว่ามีความรักแต่ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ถึงบางตอนนางเอกจะดูเบลอเกินหรือเยอะเกินจนน่าหงุดหงิดก็ตาม แต่ก็มีความลงตัวในเรื่องของความโรแมนติกที่ ไม่ได้เวอร์วังฟินปรี๊ดปรอทแตกภายใน ตอนเดียวแต่เรื่องราวกับใสๆ และค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาความสัมพันธ์ และความคิดความอ่านของตัวละคร รวมถึงมุมมองความรักที่เปลี่ยนไปหลังจากคบกันไปสักระยะหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้ดูมีอะไรไปจนถึงตอนจบ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปถึงภาคต่อใน Good Morning Kiss ที่เป็นเรื่องของทั้งสองคนในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังดูน่าติดตาม

ผ่านไปหลายสิบปี กับการกลับมาอีกครั้ง...




หลังจากการ์ตูนจบไปเมื่อ 2002 (พ.ศ. 2545) จนแทบจะลืมไปแล้ว ใครจะคิดล่ะว่าเรื่องนี้จะกลับมาอีกครั้ง ในเวอร์ชั่น Live Action โดยการร่วมมือกันระหว่าง Fuji TV และ NetFlix (Worldwide) นำแสดงโดย Fukuhara Haruka (รับบทเป็น Yoshikawa Nao) และ Shunya Shiraishi (รับบทเป็น Uehara Hisashi)
Live Action ได้มีการสร้างความแตกต่างไปจากมังงะเล็กน้อย เริ่มจากการขยับให้พระเอก – นางเอกอยู่ ม.ปลาย ในขณะที่มังงะ เรื่องราวจะอยู่ที่ช่วงประมาณ ม.3 - ม.4  แต่เนื้อหาหรือฉากสำคัญๆ ยังคงไว้  (ซึ่งเราก็คิดว่าการเซ็ตให้อยู่ ม.ปลายน่าจะดีกว่า)

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มตัวละครอย่างไดจิ รุ่นพี่ที่โรงเรียนที่เปรียบเหมือนเพื่อนวัยเด็กของนาโอะ เข้ามาเป็นศัตรูหัวใจ ให้ประเด็นความรักมีความดราม่าขึ้นมามากขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่าบทบาทของรุ่นพี่ไดจิก็ต้องมาแนวพี่ชายที่แสนดี พระรองน้ำใจงามอย่างแน่นอน แต่การมีไดจิสำหรับเราก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี เรื่องดีคือ มันมีความแปลกใหม่ เข้ามาแต่ไม่ได้ทำให้เรื่องเดิมผิดเพี้ยนไปนัก ทำให้ดูมีสีสันที่แปลกใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพล็อตพระเอกมาดนิ่ง กับพระรองผู้อบอุ่น มันจะเกลื่อนไปสำหรับละครรักโรแมนติกที่เห็นในปัจจุบันรึเปล่า  เพราะเนื้อเรื่องในมังงะเดิมทีความสัมพันธ์ ความรักก็ไม่ได้ยุ่งเหยิง วุ่นวาย ก็มีเสน่ห์ในตัวมันเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวบทและการแสดงก็ทำได้ลื่นไหล และน่าติดตามมากระดับหนึ่ง เหมาะกับคนที่อยากหาเรื่องหวานๆ โรแมนติก ดูเพลินๆ ไม่ดราม่าหนักเกินไป

ดูไปดูมาก็เกิดอยากอ่าน Good Morning Kiss การ์ตูนภาคต่อของเรื่องนี้ :D

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

[Manga] โทโดอิน เซยะฯ การ์ตูนระทมคอมเมดี้ เรื่องน่าเศร้าของหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย แต่ดวงซวยหาแฟนไม่ได้!




ปรกติแล้วคาร์แรกเตอร์แบบหนุ่มหล่อ พ่อรวย ผลการเรียนเป็นเลิศ มักเป็นคาร์แรกเตอร์หนุ่มฮอตที่มีสาวๆ มารุมล้อมมากมายรวมถึงนางเอกในการ์ตูนผู้หญิง แต่...นั่นไม่ใช่สำหรับ “โทโดอิน เซยะ” คนนี้

“ทำไม โทโดอิน เซยะ อายุ 16 รูปหล่อ พ่อรวย แต่ดวงซวยหาแฟนไม่ได้” (Why can’t Seiya Todoin 16-year-old, get a girlfriend?) การ์ตูนชื่อแปลกจาก Luckpim ที่ทำให้คุณคุยกับคนขายการ์ตูนไม่รู้เรื่องเพราะเขาก็ไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมโทโดอิน เซยะ อายุ 16 รูปหล่อ พ่อรวย แต่ดวงซวยหาแฟนไม่ได้ (โอ๊ย! พอ)




ทำไม โทโดอิน เซยะ อายุ 16 รูปหล่อ พ่อรวย แต่ดวงซวยหาแฟนไม่ได้ (Why can’t Seiya Todoin 16-year-old, get a girlfriend?)
ผู้แต่ง: ชูยะ อุจิโนะ และคันตะ โมกิ
สำนักพิมพ์: LuckPim
จำนวนเล่ม: 8 เล่ม (จบ)

เรื่องย่อหลังปก
โทโดอิน เซยะ เด็กหนุ่มผู้มีผลการเรียนดี กีฬาเด่น รูปหล่อ แถมยังเป็นลูกชายเศรษฐี แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็หาแฟนไม่ได้สักที “ทำไม ทำไมเราถึงหาแฟนไม่ได้?” มันช่างดูห่างไกลจนต้องตั้งคำถาม ซ้ำยังตกอับถึงขั้นต้องไขว่คว้า! สงครามความรักอันโดดเดี่ยว ที่ทุกคนจะต้องอินไปด้วยกันได้ปะทุขึ้นแล้ว!!

เรื่องราวเปิดมาให้เห็นถึงความเพอร์เฟ็คทุกกระเบียดนิ้วของเซยะ แต่ดันนนมาสะดุดหักมุมว่า “ฝากให้ (จดหมาย) กับซาโต้คุงหน่อยได้ไหมจ๊ะ”

เครียดสิครับ...

__________________________________


เนื้อเรื่องพาให้เรารู้จักกับชีวิตของโทโดอิน เซยะ ชายหนุ่มผู้ตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่าจะต้องหาแฟนให้ได้ก่อนจบม.ปลาย และช่วงเวลาต่างๆ ที่เขาต้องพบพานกับผู้หญิงที่หลากหลายกับใจหญิงที่ยากจะหยั่งถึง

การเจอโทโดอิน เซยะ มันคงมีอารมณ์เหมือนตอนที่เราเจอผู้ชายหล่อ โปรไฟล์ดีคนหนึ่ง แต่ก็ต้องอึ้งปนสงสัยเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เคยมีแฟน และคำตอบนั้นบางทีเราอาจหาได้จากการ์ตูนเรื่องนี้เพราะหลังอ่านจบไปประมาณ 2-3 เล่ม เราก็รู้สึกว่าเราพอเข้าแล้วว่าทำไมนายถึงหาแฟนไม่ได้สักที (ฉันเองก็ไม่ต่างกับนายหรอก ตบไหล่  T_T)




อันที่จริงแล้วใช่ว่าพ่อหนุ่มเซยะ จะมีอะไรไม่ดีนะ ออกจะนิสัยดีด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเรื่องความรักในวัยเด็กมาก่อน ทำให้ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนกลัวความรัก การที่คนอ่านได้รับรู้มุมมองการเล่าเรื่องผ่านเซยะและรับความรู้สึกระทมขมขื่นไปพร้อมๆ กับความฮา เพราะมันช่างเป็นตลกร้าย ท่ามกลางความนึกคิด ความมโน และหลายๆ เรื่องของเซยะ  ผู้แต่งอาจต้องการบอกกับเราเพียงแค่ว่าความรักเป็นเรื่องของใจ ปัจจัยภายนอกทั้งทรัพย์สิน เงินทอง รูปร่างหน้าตาอาจมีส่วนดึงดูด แต่ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านั้นแทบไม่มีผลกับความรัก ชีวิตของเซยะ แทบจะดึงดูดผู้หญิงมากหน้าหลายตาและใช่ว่าทุกคนจะปฏิเสธเซยะ (คนที่ปฏิเสธจริงๆ มันก็มี) แต่ท้ายที่สุดมันเป็นเพราะเซยะเองทั้งนั้นที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นหลุดมือไป

เมื่อทุกคนมีรักได้ ทุกคนก็มีโอกาสที่อกหักได้เช่นกัน  เรื่องราวของโทโดอิน เซยะจะว่าไปก็เป็นเหมือนตำราปรัชญาของรักที่ไม่สมหวัง ความรักมีหลายรูปแบบ อกหักก็มีหลายเหตุผล บางครั้งคนที่เราคิดว่าใช่ก็ไม่ใช่ บางครั้งความรักที่ผ่านเข้ามาก็ไม่พอดีกับจังหวะชีวิตของเรา

และไม่ว่ารักนั้นจะสมหวังหรือไม่ ท้ายที่สุดชีวิตของคนเราก็ต้องดำเนินต่อไป...

__________________________________

คะแนน 7/10
ปรกติเราเคยอ่านแต่การ์ตูนที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ การ์ตูนเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึว่าจุดเริ่มต้นกับจุดจบช่างใกล้กันเหลือเกิน เคลมกันไวยิ่งกว่าเรียกประกัน ยิ่งอ่านไปจนจบพี่ไม่รู้ว่าควรขำ สงสาร หรือชื่นชมน้องดี การ์ตูนเรื่องนี้มีหลายหลายรสชาติด้วยกันทั้งสไลซ์ออฟไลฟ์ ดราม่า ระทม คอมเมดี้ ชีวิตบัดซบ และเยียวยาจิตใจคนไร้แฟนไปพร้อมๆ กัน